นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ มีภารกิจสำคัญในดูแล อนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และป่าเสื่อมโทรมให้กลับมาสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า แหล่งอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทั้งนี้ ภารกิจในการป้องกันปราบปรามและลาดตระเวน ถือเป็นภารกิจสำคัญในการป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าเก็บหาของป่า และการลักลอบบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่า รวมถึงการลักลอบค้าสัตว์ป่าทั้งในประเทศและข้ามชาติ
จากสถานการณ์การบุกรุกพื้นที่ป่ามีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบตัดไม้พะยูง ไม้มีค่า และไม้กฤษณา ซึ่งขบวนการเหล่านี้ได้นำกองกำลังติดอาวุธสงครามเข้ามาคุ้มกันการตัดไม้ตามแนวชายแดน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากอาวุธที่มีอยู่ ส่วนใหญ่เป็นอาวุธปืนลูกซองยาว มีประสิทธิภาพต่ำ ไม่ทัดเทียมกับอาวุธปืนของกลุ่มขบวนการกระทำผิด ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่และความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน กรมอุทยานฯ ได้เตรียมขอรับการสนับสนุนอาวุธปืนที่ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายแดน
ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พัฒนาระบบการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ (Smart Patrol System) ซึ่งเป็นการลาดตระเวนที่มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น GPS เครื่องมือสื่อสาร และแอปพลิเคชันบันทึกข้อมูล เพื่อเก็บข้อมูลการกระทำผิดและสถานภาพทรัพยากรในพื้นที่อย่างเป็นระบบ ปัจจุบันมีชุดลาดตระเวน 1,328 ชุด เจ้าหน้าที่ลาดตระเวน จำนวน 8,663 นาย ครอบคลุมพื้นที่ป่าอนุรักษ์กว่า 70 ล้านไร่ทั่วประเทศ หรือประมาณ 1 แสนตารางกิโลเมตร
อธิบดีกรมอุทยานฯ เน้นย้ำว่า การเตรียมขอรับการสนับสนุนอาวุธปืนครั้งนี้ เพื่อเสริมประสิทธิภาพระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นการยกระดับมาตรฐานการป้องกันรักษาป่าของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนอาวุธปืนที่มีประสิทธิภาพจะส่งมอบอาวุธปืนไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าในพื้นที่เสี่ยงเพื่อการปฏิบัติงานด้านการป้องกันที่สำคัญต่อการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.