วันที่ 23 ธันวาคม 2567 เวลา 06.29 น.นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมเปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย หลังจากที่ได้ปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายจุลกร เมืองแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) และนายโกวิท แสนสุข ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย
มอบหมายให้นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายจุลกร เมืองแก้ว ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) นายโกวิท แสนสุข ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเลย นายณัฐยศ ชัยชนะทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายอดิสร เหมทานนท์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง นักท่องเที่ยวและ สื่อมวลชน ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง หลังปิดการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา
นายวีระ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังพบรายงานการเกิดอุบัติเหตุ และการเผชิญหน้าระหว่างสัตว์ป่ากับนักท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการด่วนให้กรมอุทยานฯ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวทุกด้าน โดยให้คุมเข้มทั้งจุดชมวิวและเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้น ภูกระดึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับตำนานที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลขึ้นไปชมทะเลหมอกและดอกไม้ป่าจำนวนมาก” ทั้งนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวด เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มจุดประชาสัมพันธ์และติดป้ายเตือนตลอดเส้นทางเดินขึ้นเขา รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเพิ่มขึ้นเพื่อดูแลความปลอดภัย
นอกจากนี้ ทางอุทยานฯ ยังได้มีการกำหนดมาตรการเพื่อการจัดการขยะรูปแบบใหม่ ด้วยการนำโดรนมาใช้ขนสัมภาระและขยะ และจะงดวางถังขยะตามเส้นทางเพื่อลดการดึงดูดช้างป่า ถือเป็นการจัดระเบียบเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องขยะ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ขยะที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จะมีการกำจัดตามหลักวิชาการเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขยะที่ย่อยสลายเองไม่ได้ ต้องขนกลับลงมาทั้งหมด โดยนักท่องเที่ยวและร้านค้าจะต้องรับผิดชอบการจัดการขยะของตนเอง ซึ่งที่ผ่านมามีการรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวนำขยะกลับลงมาด้วยทุกครั้ง และไม่อนุญาตให้นำอาหาร เครื่องดื่มออกนอกร้าน ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าทึ่จะปรับทันที สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าเพื่อวางมาตรการใหม่ จะมีการนำเทคโนโลยีโดรนมาช่วยขนสัมภาระและขยะ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนการจัดการขยะครั้งใหญ่ด้วยการงดวางถังขยะตามเส้นทางเพื่อไม่ให้ดึงดูดช้างป่า
มาตรการเด่นที่น่าสนใจ คือการแบ่งโซนความรับผิดชอบให้ร้านค้าดูแลความสะอาดตลอดเส้นทางตั้งแต่ด่านตรวจ 3 จนถึงบริเวณผาหล่มสัก และการติดตั้งรั้วไฟฟ้ารอบบ่อขยะเพื่อป้องกันช้าง นอกจากนี้ยังมีการริเริ่มโครงการมัดจำบรรจุภัณฑ์และการตรวจนับสิ่งของที่จะก่อให้เกิดขยะก่อนขึ้นเขา ด้านผู้ประกอบการเองก็ร่วมเสนอไอเดียสร้างสรรค์ เช่น การรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวนำแก้วน้ำส่วนตัวมาใช้ และการพัฒนานวัตกรรมบีบอัดขยะพลาสติก โดยร้านค้าที่จำหน่ายน้ำดื่มในขวดพลาสติกต้องรับผิดชอบนำขยะกลับลงมาทั้งหมด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจขึ้นภูกระดึงในช่วงนี้ ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอากาศหนาว 4-12 องศาเซลเซียส พร้อมนำแก้วน้ำส่วนตัว ถุงใส่ขยะ และไฟฉายติดตัวขึ้นไปด้วย ที่สำคัญคือต้องรับผิดชอบนำขยะของตนเองกลับลงมา เพื่อร่วมกันรักษาความสะอาดและความงามของภูกระดึงให้คงอยู่ตลอดไป.