นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้เข้มงวดการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ทางสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) ได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่า เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันปราบปราม นำระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้อัจฉริยะมาใช้ หลังติดตั้งตรวจพบความผิดปกติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่อน จังหวัดระนอง จนนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดี
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลดาวเทียมผ่านระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้อัจฉริยะ พบความผิดปกติบริเวณบ้านบางปรุเหนือ หมู่ที่ 6 ตำบลกะเปอร์ จังหวัดระนอง ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่อน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบ
โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายนิสิต ตระการภาสกุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่อน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าบ้านหินขาว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้อัจฉริยะ iForMS บริเวณป่าบ้านบางปรุเหนือ ม.6 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ผลการตรวจสอบพบการบุกรุกพื้นที่ป่ารวม 1.28 ไร่ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1. แปลงเดิมที่เคยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เนื้อที่ 0-3-25 ไร่ ซึ่งมีการปลูกปาล์มน้ำมัน
2. พื้นที่บุกรุกใหม่เพิ่มเติม 1-1-13 ไร่ พบการตัดฟันกอไผ่และแผ้วถางพื้นที่ มีการปลูกปาล์มน้ำมันอายุประมาณ 1-2 เดือน จำนวน 11 ต้น
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกะเปอร์ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังมิให้ผู้ใดเข้ามาใช้ประโยชน์พื้นที่อีก
“การนำระบบติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้อัจฉริยะมาใช้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่า ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ป่าได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ก่อนที่ความเสียหายจะลุกลามเป็นวงกว้าง” นายอรรถพลกล่าว พร้อมย้ำว่าจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องผืนป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืน.