กรมอุทยานฯ ติวเข้มหัวหน้าป่าอนุรักษ์เตรียมพร้อมช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรทั่วประเทศ ก่อนบังคับใช้กฎหมายลำดับรอง พ.ร.บ.อุทยานฯ มาตรา 64 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา121
วันที่ 15 มิถุนายน 2566 เวลา 09.00 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวรายงานและร่วมบรรยาย ผู้เข้าประชุมประกอบด้วยผู้บริหารและปฏิบัติการ รวมจำนวน 431 คน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และมีการถ่ายทอดผ่านระบบ Video Conference ไปยังผู้ปฏิบัติงานในสำนักบริหารพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทุกสำนัก และในเขตป่าอนุรักษ์ที่เกี่ยวข้องทุกพื้นไปพร้อมกันด้วย
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวเปิดการประชุม พร้อมมอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุม “ตั้งใจ วางตัว เข้าใจ เพื่อผลประโยชน์ในพื้นที่” ให้มีมาตรฐานในการทำงานโดยให้ยึดหลักข้อกฎหมาย เคารพในกฎหมาย ให้ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ในระเบียบข้อกฎหมาย และด้านการสื่อสารและการวางตัว ต้องเรียนรู้เข้าใจในวัฒนธรรมประเพณีในพื้นที่ ในการทำงานต้องมีการวางแผน โดยต้องประสานการทำงานกับเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและต่อทางราชการต่อไป
นายอรรถพล กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์ คือ พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 121 ทั้ง 2 มาตรา มีผลใช้บังคับ ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ให้แล้วเสร็จภายใน 240 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดในพื้นที่ 227 ป่าอนุรักษ์ มีราษฎรถือครองที่ดิน จำนวน 316,560 ราย 468,256 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4,273,726 ไร่ โดยกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ ได้นำพื้นที่ดังกล่าวมาดำเนินการจัดทำขอบเขตพื้นที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัยที่เรียกว่า “เขตบริหารเพื่อการอนุรักษ์” ซึ่งเป็นที่ตกลงยอมรับร่วมกันกับราษฎรในพื้นที่ นำมาจัดทำเป็นแผนที่ตามมาตรฐานกำหนด เพื่อใช้แนบท้ายร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 121 ตามที่รัฐบาล และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เร่งรัดการดำเนินการดังกล่าวจนแล้วเสร็จครบทุกพื้นที่เป้าหมาย เมื่อเดือนตุลาคม 2565 เพื่อส่งให้กรมการปกครองตรวจสอบความถูกต้องของท้องที่ และแนวเขตการปกครอง ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี 22 มีนาคม 2565 ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกา ดังกล่าวข้างต้น
ซึ่งขณะนี้ กรมการปกครองได้ตรวจสอบรับรองความถูกต้องของเขตปกครองในแผนที่แนบท้ายร่างพระราชกฤษฎีกาแล้ว จำนวน 23 ป่าอนุรักษ์ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ พร้อมแผนที่ท้ายร่างที่กรมการปกครอง ตรวจรับรองความถูกต้องแล้ว เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจสอบรายละเอียด เพื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป สำหรับป่าอนุรักษ์ที่เหลือ เมื่อกรมการปกครองตรวจรับรองความถูกต้องของเขตการปกครองเรียบร้อยแล้ว จะได้นำเรียนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาเพิ่มเติมต่อไป
การประชุมได้มีการบรรยายข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นโยบายการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ โดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช การบรรยายเรื่องการดำเนินงานจัดการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย โดยนายวีระยุทธ วรรณเลิศสกุล ผู้อำนวยการส่วนจัดการที่ดินและชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ การบรรยายเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายลำดับรอง มาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดย ผู้แทนกองนิติการ ผู้แทนสำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ผู้แทนสำนักอุทยานแห่งชาติ ผู้แทนสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย โดยนายอนันต์ ปิ่นน้อย ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์