• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

โชว์ “4 เมนูเด็ดอุทยานแห่งชาติ” หนุนซอฟต์ พาวเวอร์ ด้านอาหาร ดึง นทท. สัมผัสรสชาติ

วันที่ 28 กันยายน 2565 นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.มีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ (Soft Power) หรือวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่การท่องเที่ยว

ดังนั้น กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ จึงได้คัดสรรสิ่งที่เป็นซอฟต์ พาวเวอร์ และผลักดันผ่านทางวัฒนธรรม 5 F ดังนี้ 1. อาหาร (Food) 2. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3. การออกแบบแฟชั่น (Fashion) 4. ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และ 5. เทศกาลประเพณี (Festival) โดยขณะนี้ได้เริ่มในส่วนของการสนับสนุนและส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ภายในหน่วยงาน เนื่องจากอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะในหลายด้าน ทั้งในด้านการเล่นดนตรี โดยเฉพาะดนตรีประเภทโฟล์คซอง ซึ่งนิยมใช้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารที่เชื่อมโยงกับชุมชนได้ดี

ทั้งนี้ สำนักอุทยานแห่งชาติ ได้จัดประกวดวงดนตรีโฟล์คซอง มี 14 วงจากอุทยานต่างๆ ส่งเข้าประกวดและได้ผ่านการคัดเลือกเหลือ 5 วงที่จะมาแสดงในวันที่ 2 ต.ค.นี้ ในงานวันคล้ายวันสถาปนากรมอุทยานฯ ครบรอบ 20 ปี ประกอบด้วย วงกัวลาบารา จากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา วง Bigcat อุทยานฯ คลองลาน วงใบตองกุง อุทยานฯ ภูพาน วงจอมธาตุ อุทยานฯ ภูหินจอมธาตุ-ภูพระบาทและวงคณะละเมอว่า อุทยานฯ ภูเวียง

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สำนักอุทยานฯ ยังได้คัดสรรสิ่งที่เป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ด้านอาหาร หรือ “เมนูเด็ดอุทยานแห่งชาติ” ซึ่งอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทั่วประเทศต่างก็มีวิธีการและวัตถุดิบเฉพาะถิ่นที่สามารถนำมาสร้างรายการอาหารขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชิมและสัมผัสรสชาติอาหารที่แตกต่างไปจากเดิมรวมทั้งสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวแปลกใหม่แก่ตนเอง โดยเบื้องต้นคัดเลือกมา 4 เมนูเด็ด เมนูแรกจากอุทยานฯ ออบขาน จ.เชียงใหม่ ได้แก่ “แกงเผ็ดอะโวคาโด” ซึ่งอะโวคาโดเป็นพืชที่ชุมชนรอบพื้นที่ปลูกกันมาก เนื้อสัมผัสนุ่มหนืดกับรสชาติเฉพาะตัวของอะโวคาโด ทำให้แกงเผ็ดไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ หรือเนื้อ มีความเข้มข้นและนุ่มลิ้นขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของโหระพาและใบมะกรูด คงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารไทย จะทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนก็อร่อยไม่แพ้กัน เมนูที่สองจากอุทยานฯ เจ็ดสาวน้อย จ.สระบุรี ได้แก่ “สเต็กเนื้อสันใน ซอสพริกไทยอ่อน” เป็นเนื้อสันในวัวที่ได้จากชุมชนใน อ.มวกเหล็ก นำมาหมักกับเครื่องเทศทำให้เกิดความนุ่มไม่แพ้เนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย เคล้าซอสพริกไทอ่อนที่มีส่วนผสมของนมวัวเพื่อให้ความหอมมันแทนการใช้วิปปิ้งครีม

เมนูที่สาม จากอุทยานฯ หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ “แกงส้มปูทะเลหน่อไม้ดอง” ที่ได้จากวัตถุดิบล้ำค่าในท้องถิ่น ปูทะเลตัวโตเนื้อแน่นสด ๆ จากทะเลอ่าวไทย แกงคู่กับหน่อไม้ดอง ถึงรสถึงเครื่องตามต้นตำหรับแกงส้มปักษ์ใต้แท้ ๆ และเมนูที่สี่จากอุทยานฯ หมู่เกาะระนอง จ.ระนอง ได้แก่ “ใบโกงกางทอด น้ำพริกกะปิเกาะเหลา” วัตถุดิบจากป่าชายเลนแห่งเมืองระนอง โดยนำใบโกงกางอ่อนใบที่ 2 จากยอดอ่อน ซึ่งมีรสเค็มมันและยังมีสรรพคุณเรื่องช่วยรักษาแผลในกระเพาะ แก้วิงเวียน อาเจียน นำมาท็อปหน้าด้วยกุ้งสับหรือหมูสับชุบแป้งทอดกรอบ ทานคู่กับน้ำพริกกะปิที่ใช้กุ้งเคยจากเกาะเหลาแหล่งผลิตกะปิขึ้นชื่อของระนอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด