วันที่ 21 มีนาคม 2565 นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายกษิดิศ จั่นประดับ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขณะออกตรวจลาดตระเวนไปถึงบริเวณพื้นที่ป่าซอยทุ่งกระทิง หมู่ที่ 9 บ้านโป่งสำโหรง ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นร่องรอยหยดเลือดหยดเป็นทางจึงได้ร่วมกันสะกดรอยตามเส้นทางของหยดเลือด พบบุคคลชาย 1 คนกำลังชำแหละซากสัตว์ป่าอยู่ใต้ต้นไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้ซุ่มอยู่พบมีพฤติการณ์ใช้เชือกรัดคอซากสัตว์ป่าแขวนไว้กับกิ่งต้นไม้แล้วใช้อาวุธมีดแล่หนังออก เมื่อชำแหละหนังออกแล้วเสร็จบุคคลชายดังกล่าวจึงได้แขวนหนังของซากสัตว์ป่าไว้ที่ใต้ต้นไม้ ก่อนจะเห็นเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวได้รีบวิ่งนำซากสัตว์ป่าที่ชำแหละหนังออกแล้วเป็นตัวไปทิ้งเพื่ออำพรางความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจับกุมตัวชายคนดังกล่าวพร้อมซากสัตว์ป่าที่นำไปทิ้งได้
จากการตรวจสอบซากสัตว์ป่าดังกล่าวพบว่าเป็นซากเก้ง หรือ ฟาน ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองลำดับที่ 198 ร่องรอยของซากสัตว์เก้ง ดังกล่าว มีรอยกระสุนปืนทะลุบริเวณต้นขาหลังด้านซ้ายเข้าสู่ด้านในจนทำให้เสียชีวิต จึงทำการควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวพร้อมของกลางซากสัตว์ป่า และ อาวุธปืนลูกซองเดี่ยว ยาว เบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก กระสุนลูกซองเบอร์ 12 บรรจุในรังเพลิง จำนวน 1 นัด กระเป๋าเป้ จำนวน 1 ใบ ข้างในบรรจุกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 6 ลูก , ปลอกกระสุนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 ลูก , ตะกั่ว 1 แท่ง , ลูกตะกั่วหัวจีบ 34 ลูก และให้การรับสารภาพว่าได้นำอาวุธปืน พร้อมเครื่องกระสุน เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพื่อทำการล่าสัตว์ป่า ซึ่งจุดที่ยิงเก้งตัวนี้อยู่ห่างจากบ้านของตนขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากนั้นเมื่อยิงเก้งจนตายตนจึงได้นำมาชำแหละบริเวณบ้านของตน จนกระทั่งถูกจับกุม
อย่างไรก็ตามการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จึงควบคุมตัวชายคนดังกล่าวพร้อมของกลางและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองพลับ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป