วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า นายกมลลาส อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม รายงาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิฟรีแลนด์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้เดินทาง เข้าไปติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จำนวน 20 ตัว ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2565 จากนั้นวันที่ 6 ก.พ.2565 ได้ไปเปิดกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าตรวจสอบภาพในกล่องดักถ่าย ก็พบเสือโคร่งพิการสามขาซูบผอม กำลังกินซากควายในบริเวณ สามแยกห้วยสะมะท้อ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ห่างจากที่นายหวาน ชาวกระเหรี่ยง ถูกเสือโคร่งกัดประมาณ1.5 กม. และห่างจากหมู่บ้านปิล็อกคี่ไปประมาณ 6 กม.
โดยในวันที่ 12 ก.พ. 2565 ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปเปิดกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าดูอีกรอบ ก็ยังพบเสือโคร่งพิการ ได้เข้ามากินซากควายตัวเดิม ในคืนวันที่ 7 ก.พ.และ 8 ก.พ. 2565 ในบริเวณเดิม ซึ่งจากการสังเกตจะเห็นว่าเสือโคร่งพิการดังกล่าว มีอาการแข็งแรงขึ้นหลังจากกินซากควายไป 3 วัน นอกจากนี้ได้เปิดดูกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่ากล้องอื่นๆที่ได้ติดตั้งกล้องดักถ่ายไว้หลาย ๆ จุดที่คาดว่าเป็นทางเดินสัตว์ป่าหากินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาแหลม ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.-จนถึงวันนี้ 12 ก.พ 2565 ก็ยังไม่พบเสือโคร่งตัวอื่น พบเพียงอีเห็น 1 ตัว และแมวดาว 1 ตัว เท่านั้น
ทั้งนี้จากการลาดตระเวนในวันที่ 6 ก.พ. – 7 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบอุ้งตีนของเสือโคร่ง 1 อุ้งตีน ที่มีลักษณะโดนแร้วบ่วงสลิงรัดสัตว์ป่าจนอุ้งตีนขาด สภาพเน่าเปื่อยมาหลายวัน วัดขนาดได้ความกว้าง 3.5.นิ้ว ความยาว 5.12 นิ้ว อยู่บริเวณในห้วยสะมะท้อ ห่างจากบริเวณนายหวาน ชาวกระเหรี่ยงที่ถูกเสือโคร่งทำร้ายไปประมาณ 300 ม. และห่างจากหมู่บ้านปิล็อกคี่ไปประมาณ 6.3 กม. คาดว่าน่าจะเป็นอุ้งตีนของเสือโคร่งพิการดังกล่าว โดยภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเชาแหลม ได้มีการลาดตระเวนและดำเนินการดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้านปิล็อกคี่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า จำนวน18 คน และมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้ออกตรวจป่าร่วมด้วย จำนวน 4 นาย รวม 22 นาย ได้ร่วมกันลาดตระเวนป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ บริเวณพื้นที่ป่าปิเต็ง ป่าห้วยปิล็อก ป่าสะมะท้อ และบริเวณป่าใกล้เคียง เพื่อระวังภัยให้กับเสือโคร่งตัวพิการ สามขาที่น่าสงสาร และสัตว์ป่าอื่นๆ จากการลาดตระเวน พบร่องรอยเท้าเสือโคร่ง ซึ่งเป็นรอยเก่าประมาณ 1 เดือน และพบการขุดหลุมวางแร้วบ่วงสลิงดักเสือโคร่ง หรือสัตว์ป่าอื่นๆ ประมาณ 10 กว่าจุด และบริเวณใกล้เคียงหลุมแร้วบ่วงสลิงดักเสือโคร่งหรือสัตว์ป่าอื่นๆ ตรวจพบต้นไม้มีรอยเล็บเสือขูด ลักษณะ เป็นรอยเก่าประมาณ 1 เดือน
สำหรับการช่วยเหลือเสือโคร่งพิการ สำนักบริหาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 จะได้มีการประชุมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเสือโคร่งของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือเสือโคร่งพิการต่อไป