• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

รายงานพิเศษ : หยุด บ่วง แร้ว พันธนาการ สังหารชีวิตสัตว์ป่า ความทรมานของ ‘พังฟ้าใส’

สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้รับแจ้งจาก หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ว่าพบลูกช้างเพศเมียวัย 3 เดือนเศษ ติดบ่วง แร้ว อยู่ในคูกั้นช้าง บริเวณเขาหินขวาก บ้านคลองยายไท หมู่ที่ 18 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จึงเร่งจัดทีมสัตวแพทย์เข้าช่วยเหลือทันทีและเคลื่อนย้ายลูกช้างมาที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้นที่ 1 (เขาหินขวาก) และตั้งชื่อว่า “พังขวากรัก” ต่อมาได้ย้าย “พังขวากรัก” ไปรักษาที่สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี ที่มีความพร้อมในการรักษาพยาบาลและฟื้นฟูสุขภาพช้าง และได้เปลี่ยนชื่อจาก “พังขวากรัก” เป็น “พังฟ้าใส”

ภาพพังฟ้าใส ลูกช้างป่าวัย 3 เดือน ติดกับดักถูกบ่วงเชือกรัดขาได้รับบาดเจ็บสาหัสขาเกือบขาด ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปพบ น้องคงพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิตให้พ้นจากบ่วงเชือกที่รัดติดกับปลายขา เพื่อวิ่งตามแม่และโขลงให้ทัน แต่ทว่า ดิ้นเท่าไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากบ่วงนรก นั้นได้ เชือกค่อยๆ บาดลึกลงในปลายขา เลือดไหลนองไปทั่ว แต่น้องก็ยังพยายามดิ้นต่อไปหวังจะให้พ้นจากพันธนาการ เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ทรมานยิ่งนัก ความทรมานกายนั้นสุดพรรณนา แต่สภาพจิตใจนั้น ร้อยเท่าพันเท่าทวีคูณ ลูกช้างน้อยวัยยังไม่หย่านม ที่ต้องถูกแม่และโขลงทิ้งให้อยู่ลำพังเดียวดายในคูกั้นช้าง เป็นภาพและเหตุการณ์สลดใจต่อเจ้าหน้าที่ที่ไปพบเห็นยิ่งนัก

จากสถิติคดีเกี่ยวกับสัตว์ป่า ปี พ.ศ.2564 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เก็บอุปกรณ์ดักสัตว์ป่า บ่วง แร้วที่ยังไม่ทำงาน จำนวนนับหมื่นนับแสนอัน นับเป็นความโชคดีที่บ่วง แร้ว เหล่านี้ได้ถูกพบเจอก่อนที่จะสร้างความเจ็บปวด ทรมานกับบรรดาเหล่าสัตว์ป่าที่เดินหากินในถิ่นของตนเองโดยไม่รู้ประสีประสาว่ามนุษย์ใจร้าย ได้วางกับดักเอาไว้ สัตว์ป่าหลายตัวต้องสังเวยชีวิตกับบ่วงนรกนี้

เนื่องในโอกาสวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ 26 ธันวาคม 2564 อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายธัญญา เนติธรรมกุล ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเก็บกู้ กับดักสัตว์ป่า บ่วง แร้ว ในพื้นที่รับผิดชอบให้หมดสิ้น และกำชับให้ดำเนินคดีกับผู้ลักลอบล่าสัตว์ป่าโดยเคร่งครัด ปัจจุบันกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ได้เพิ่มบทลงโทษกับผู้ที่กระทำผิดมาตราต่างๆ สูงถึงสองล้านบาทและโทษจำคุก ก็เพื่อหวังว่าผู้ที่จะกระทำความผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ตระหนัก ไตร่ตรอง ยับยั้งความคิดที่จะกระทำผิดต่อสัตว์ป่าของไทยอีกต่อไป

ภาพความทรมานของ “พังฟ้าใส” จะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป หากพี่น้องคนไทย รู้รักป่าไม้และสัตว์ป่า คนกับป่าจะต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลและยั่งยืน ตามแนวคิดที่ว่า “ป่าอยู่ได้ คนอยู่ได้ สัตว์ป่าอยู่รอด คนปลอดภัย”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด