วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 น.ส.สุนิตา วิงวอน นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เปิดเผยถึงกรณีการช่วยเหลือลูกช้างป่าเพศเมีย อายุประมาณ 3 เดือน ที่ถูกบ่วงแร้วรัดข้อเท้าบาดเจ็บตกอยู่ในคูกันช้างบริเวณบ้านคลองยายไท ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือนำไปรักษาอาการบาดเจ็บที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้นที่ 1 (เขาหินขวาก) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
ล่าสุด สัตวแพทย์ สบอ.2 (ศรีราชา) ได้ร่วมกับ สัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ได้ทำการประเมินอาการข้อเท้าข้างที่ติดบ่วงด้วยการเอ๊กซเรย์ พบว่าบาดแผลที่ข้อเท้าเกือบขาดแล้ว แต่ยังคงมีส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อยึดติดเล็กน้อย ซึ่งได้ทำการล้างทำความสะอาดบาดแผลที่ถูกบ่วงรัด พร้อมทั้งฉีดยาปฏิชีวนะเพื่อลดการติดเชื้อจากบาดแผล ฉีดยาลดไข้ ลดอักเสบ และยาป้องกันภาวะเครียด พร้อมทั้งให้สารน้ำเกลือทางใต้ผิวหนังเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ จำนวน 600 ซีซี และยังพบบาดแผลลักษณะเป็นรูเล็กๆจำนวน 8 รู ที่ต้นขาข้างซ้ายหน้า ซึ่งมีอาการอักเสบบวมลดลง แต่ลูกช้างยังสามารถลงน้ำหนักที่ขาข้างซ้ายได้ และไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบาดแผลจากอาวุธปืนหรือไม่ ซึ่งทีมสัตวแพทย์ยังคงเฝ้าสังเกตอาการและดูแลลูกช้างอย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตามสำหรับสุขภาพของลูกช้างโดยรวมพบว่า ลูกช้างได้กินนมไปทั้งหมด 9 ครั้ง ปริมาณรวม 1500 ซีซี และน้ำปริมาณ 2,050 ซีซีพฤติกรรมโดยทั่วไปพยายามเข้าหาคน ร่าเริงมากขึ้น ไม่มีอาการซึม มีการนอนหลับระหว่างกลางคืนเป็นปกติ โดยได้ใช้ผ้าห่มมาคลุมร่างกายช้าง และจุดเตาผิงไฟห่าง และปูพื้นบางส่วนภายในคอกด้วยฟางช่วยในเรื่องให้ความอบอุ่นกับร่างกายเวลากลางคืน พร้อมทั้งได้เสริมให้ลูกช้างได้กินน้ำมากขึ้นโดยใส่น้ำในถังให้กินเอง และเพื่อเป็นการผ่อนคลาย