กรมอุทยานฯ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ตรวจสุขภาพและเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้าย ก่อนส่งอุรังอุตัง 4 ตัว กลับบ้านเกิดที่อินโดนีเซีย ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศตามอนุสัญญาไซเตส
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2568 นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นำโดยนาย Fuad Adriansyah รองเอกอัครราชทูตสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้แห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) จังหวัดราชบุรี
การเยือนครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อสังเกตการณ์และเตรียมการขั้นสุดท้ายในกระบวนการส่งคืนอุรังอุตัง จำนวน 4 ตัว กลับสู่ถิ่นกำเนิดที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยสัตวแพทย์ฝ่ายอินโดนีเซียได้ทำการตรวจประเมินสุขภาพและความพร้อมของอุรังอุตังทั้ง 4 ตัวอย่างละเอียดโดยคำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์เป็นหลัก
จากการประเมินของสัตวแพทย์ ได้มีข้อเสนอแนะที่สำคัญเพื่อลดความเครียดของอุรังอุตังในระหว่างการเดินทาง โดยจะจัดบรรจุอุรังอุตังในกรงขนส่งทั้งหมด 3 กรง แบ่งเป็นอุรังอุตังเพศผู้ 2 ตัว แยกกรงละ 1 ตัว รวม 2 กรง และอุรังอุตังเพศเมีย 2 ตัว รวมกรงเดียวกัน จำนวน 1 กรง
การจัดให้อุรังอุตังเพศเมียทั้งสองอยู่กรงเดียวกันเป็นการพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ทั้งสองยังอยู่ในวัยเด็ก มีความหวาดระแวงง่าย หากถูกแยกจากกันอาจก่อให้เกิดความเครียดได้
สำหรับกำหนดการเดินทางกลับบ้านจะเริ่มในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เวลา 16.00 น. นำอุรังอุตังเข้ากรงขนส่งเพื่อสร้างความคุ้นชิน และวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 04.00 น. จะเคลื่อนย้ายจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Garuda Indonesia เที่ยวบินที่ GA867 มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา กรุงจาการ์ต้า สาธารณรัฐอินโดนีเซีย
การส่งคืนอุรังอุตังในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ภายใต้กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) เพื่อคุ้มครองสัตว์ป่าและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าคืนสู่ถิ่นกำเนิดให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักสากล.

