เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี จัดกิจกรรม (Kick Off) รณรงค์การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ภายใต้แนวคิด “เคาะประตูบ้าน หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา” โดยมีนายชัยพล ภูต้องลม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดงาน ณ สถานีควบคุมไฟป่าหุบกะพง ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
การจัดกิจกรรมครั้งนี้สอดคล้องตามนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม มีหน่วยงานสำคัญร่วมบูรณาการ ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเพชรบุรี สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองชะอำ อำเภอชะอำ ศูนย์สาธิตสหกรณ์โครงการหุบกะพง สหกรณ์การเกษตรหุบกะพง และเครือข่ายอาสาสมัคร พร้อมด้วยประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน
กิจกรรมประกอบด้วยพิธีเปิดและการลงพื้นที่เคาะประตูบ้านในหมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 10 ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจโดยตรงกับประชาชนถึงผลกระทบของไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจของจังหวัด ควันไฟป่าปล่อยฝุ่น PM2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 30 เท่า สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคปอด และโรคหัวใจ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง นอกจากนี้ ป่าที่ถูกไฟไหม้ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการฟื้นฟู สัตว์ป่าสูญเสียแหล่งที่อยู่อาศัย ดินเสื่อมคุณภาพ และเกิดปัญหาดินถล่มในฤดูฝน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว การเกษตร และค่าใช้จ่ายในการดับไฟที่สูงขึ้น
นายชัยพล ภูต้องลม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า “การแก้ไขปัญหาไฟป่าต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงกับป่า หากทุกคนหยุดเผาและร่วมเฝ้าระวัง จะช่วยลดปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัด”
สบอ.3 สาขาเพชรบุรี ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันไฟป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในระยะเตรียมการ 6 มาตรการ คือ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน การประชาสัมพันธ์เชิงรุกด้วยการเคาะประตูบ้าน การแจ้งเตือนสถานการณ์ไฟป่าทุกวัน การเตรียมความพร้อมกำลังพลและอาสาสมัคร การจัดตั้งศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เสี่ยงอย่างเป็นระบบ
ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการป้องกันไฟป่าโดยหลีกเลี่ยงการเผาในพื้นที่โล่งและใกล้ป่า หากจำเป็นต้องเผา ให้ขออนุญาตและมีมาตรการควบคุมไฟที่ปลอดภัย เมื่อพบเห็นควันหรือไฟในพื้นที่ป่าให้แจ้งทันทีที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 หรือแจ้งผู้นำชุมชนและสถานีควบคุมไฟป่าในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังสามารถลงทะเบียนเป็นเครือข่ายอาสาสมัครเฝ้าระวังไฟป่าในชุมชนได้.

