นายสราวุธ พะลายะสุต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ได้รายงานผลการปฏิบัติงานเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการเข้าผลักดันช้างป่าฝูงใหญ่จำนวน 17 ตัว ที่ออกหากินทำลายพืชผลในพื้นที่ของราษฎร เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เวลา 20.35 น. หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคาและคณะเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ได้รับแจ้งจากราษฎรว่า พบเห็นช้างป่าออกมาหากินบริเวณพื้นที่ป่าคลองลา หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าพื้นที่ทันที โดยจุดที่พบร่องรอยการหากินคือ แปลงสำรวจถือครองฯ ของนายสนิท หล้าแหล่ง พบความเสียหายของพืชผล อาทิ ต้นหมาก จำนวน 15 ต้น และต้นมะนาว จำนวน 1 ต้น
เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนติดกล้องอินฟาเรด บินติดตามตรวจสอบพิกัดการเคลื่อนที่ของช้างป่า และยืนยันว่ามีช้างป่าจำนวน 17 ตัว ออกมาหากินจริง คณะเจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังร่วมกันดำเนินการต้อนและผลักดันช้างป่าฝูงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 19 พ.ย. จนกระทั่งเวลา 05.30 น. ของวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ช้างป่าทั้งหมดจึงได้กลับเข้าสู่พื้นที่ป่าชั้นในได้อย่างปลอดภัย
ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจผลักดันช้างป่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคาได้บันทึกภาพอันน่าประทับใจและหาชมได้ยาก โดยใช้กล้องอินฟาเรดชนิดมือถือ นั่นคือภาพของลูกช้างป่า อายุประมาณ 2 สัปดาห์ ยืนดูดนมแม่ในความมืด เป็นการยืนยันถึงความอุดมสมบูรณ์ของประชากรช้างป่าในพื้นที่ ภาพลูกช้างวัย 2 สัปดาห์ดูดนมแม่ถือเป็นภาพที่หาดูได้ยากมาก และเป็นหลักฐานยืนยันถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งฐานคอยเฝ้าระวังและรับแจ้งเหตุการออกหากินของช้างป่าในพื้นที่ป่าคลองลาอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและลดความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน (19 พ.ย. 68 เวลา 18.00 น.) หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคาได้สนธิกำลังกับหลายหน่วยงาน รวมถึงนายอำเภอกะเปอร์ ปลัดอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน และชุด อส./ชรบ. ออกตรวจติดตามเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ในท้องที่บ้านห้วยย่างแรด และบ้านบางลำพู หมู่ที่ 3 ตำบลกะเปอร์ อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง แต่ไม่พบเห็นและไม่ได้ยินเสียงช้างป่าออกมาหากินแต่อย่างใด เหตุการณ์ทั่วไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคาอยู่ในสภาวะปกติ.



