วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) เปิดรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการขยายอุทยานแห่งชาติขุนสถาน จังหวัดน่าน และจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ดำเนินการสำรวจพื้นที่ที่มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์และมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญเหมาะสมที่จะกำหนดเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมตรวจสอบร่องรอยการทำกิน/ที่อยู่อาศัย/พื้นที่การใช้ประโยชน์ของราษฎร พร้อมทั้งประสานหน่วยงานของกรมป่าไม้ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่า มีการทับซ้อนกับพื้นที่ที่กรมป่าไม้อนุญาตให้หน่วยงานอื่นใช้ประโยชน์แล้วหรือไม่ กำหนดแนวเขตอุทยานแห่งชาติหรือขยายเขตอุทยานแห่งชาติ ลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับผู้นำชุมชนและ/หรือราษฎรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำเรื่องการกำหนดพื้นที่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติหรือขยายเขตอุทยานแห่งชาติเข้าที่ประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังความเห็น และนำเรื่องเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ระดับจังหวัด เพื่อขอความเห็นชอบ
พื้นที่ขยายเขตอุทยานแห่งชาติของอุทยานแห่งชาติขุนสถาน มีพื้นที่ทั้งหมด 3 แปลง เนื้อที่รวม 13,696 ไร่ อยู่ในเขตท้องที่บ้านปิงใน บ้านห้วยเย็น บ้านน้ำเคิม และบ้านน้ำลีใต้ ตำบลปิงหลวง อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่ที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งพืชพรรณมากมาย และมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร และมีพื้นที่ที่มีความสวยงาม สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ นอกจากนี้ รอบแนวเขตพื้นที่ขยายเขตอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ยังมีชุมชนตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยและทำกิน โดยพึ่งพิงทรัพยากรในพื้นที่ขยายเขตอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ยังมีราษฎรบางส่วนที่ยังขาดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การลักลอบตัดไม้ การลักลอบล่าสัตว์ การบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองพื้นที่ทำกิน การขยายเขตพื้นที่ทำการเกษตร การเก็บหาของป่า และการจุดไฟเผาป่า ฯลฯ เป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ และทรัพยากรอันมีค่าของชาติในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติขุนสถานได้ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะกำหนดพื้นที่ที่สภาพอุดมสมบูรณ์ และมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่าตลอดจนมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยกำหนดเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายให้ได้อัตราร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ ตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติ เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ พันธุ์พืช และสัตว์ป่า เพื่อให้สามารถอำนวยประโยชน์ รวมทั้งรักษาเสถียรภาพของระบบนิเวศ การศึกษาวิจัย และนันทนาการของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ตามระเบียบในการกำหนดพื้นที่บริเวณใดเป็นอุทยานแห่งชาติ การขยายอุทยานแห่งชาติ หรือการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติ ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน จะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการ
จึงได้เปิดรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการขยายพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จึงขอเชิญชวนแสดงความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=42214 ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568
