(5 พ.ย. 68) อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ร่วมกับอำเภอทองผาภูมิ กองกำลังเฉพาะกิจลาดหญ้า และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สามารถจับกุมผู้ต้องหาลักลอบบุกรุกป่าขุดดินหาแร่ทองคำในพื้นที่ป่าต้นน้ำได้ 1 ราย พร้อมของกลางและพยานหลักฐาน หลังติดตามปราบปรามอย่างต่อเนื่อง
นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายราชันย์ บัวตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ที่เน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนพิทักษ์ผืนป่า อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจึงได้วางแผนปฏิบัติการจับกุมผู้บุกรุกพื้นที่ป่าอย่างจริงจัง
ในระหว่างวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2568 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งอำเภอทองผาภูมิ ที่ 329/2567 ภายใต้การอำนวยการของนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจลาดหญ้า พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจลาดหญ้า ร.ท.สถาพร สิทธิศาสตร์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกลาดหญ้า พ.ต.ต.พัชรพล อินเตจ๊ะ ผู้บังคับร้อย ตชด.135 และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้ออกปฏิบัติการพิเศษในพื้นที่ป่าปิล๊อกคี่ หมู่ที่ 4 ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดพร้อมระบบแจ้งเตือนในพื้นที่แปลงบุกรุกเนื้อที่ 13-3-68 ไร่ ซึ่งถูกบุกรุกตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และพบการเข้าไปขุดดินหาแร่ทองคำอย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2568 ระบบได้ตรวจจับกลุ่มบุคคล 15-20 คน เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงวางแผนปฏิบัติการโดยแฝงตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางเข้าหมู่บ้านปิล๊อกคี่ในเวลา 18.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 จากนั้นแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด เดินเท้าอ้อมหมู่บ้านลัดเลาะไปตามสันเขาและหุบเขาในป่ารกทึบผ่านพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมไปทางทิศตะวันตก
ในเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลลักษณะสะพายแร่ทองเดินมาจากแปลงตรวจยึด เมื่อแสดงตนเพื่อจะจับกุม ผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีลงบริเวณหุบเหว เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้อีกชุดหนึ่งดักซุ่มตามเส้นทาง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ คือ นายธนาวุฒิฯ อายุ 31 ปี เชื้อชาติกะเหรี่ยง เป็นบุคคลตามยุทธศาสตร์ (กลุ่มเด็กนักเรียน) ภูมิลำเนาตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมยึดของกลาง หลายรายการดังนี้ ถุงพลาสติกบรรจุดิน น้ำหนัก 184 กรัม จำนวน 1 ถุง, ถุงผ้าบรรจุดิน น้ำหนัก 20 กิโลกรัม จำนวน 1 ถุง, โทรศัพท์เคลื่อนที่ยี่ห้อ Infinix Note จำนวน 1 เครื่อง, มีดเหน็บ จำนวน 1 เล่ม, ไฟฉายคาดหัว จำนวน 2 อัน และเป้กระสอบสีฟ้าสะพายหลัง จำนวน 1 ใบ
สำหรับพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกและทำลายมีเนื้อที่ 13-3-68 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของรัฐ 756,307 บาท ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำลุ่มน้ำชั้น 1A ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศและแหล่งต้นน้ำ
ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในข้อหา
– บุกรุก แผ้วถาง ทำลายป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี วรรคสอง ประกอบมาตรา 55
– ยึดถือ ครอบครอง ทำให้เสื่อมเสียแก่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31 วรรคสอง (3)
– บุกรุกและทำลายพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(1) ประกอบมาตรา 41
– ทำให้เสื่อมสภาพดิน หิน แร่ หรือทรัพยากรอื่น ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(2) และมาตรา 42
– เข้าไปดำเนินกิจการเพื่อหาผลประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(6) และมาตรา 44
เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและพยานหลักฐานส่งสถานีตำรวจภูธรปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.30 น. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายยุทธพงค์ กล่าวเน้นย้ำว่า อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิจะไม่ยอมให้ผู้ใดบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญ และจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อรักษาผืนป่าให้คงอยู่สืบไป พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสหากพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ป่า.


