20 ตุลาคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายแก่หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานในสังกัด ณ องค์การบริหารส่วนตำบลสระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อประโยชน์ของประชาชนและความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ
การประขุมครั้งนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ มอบหมายให้ นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ และนายสุรศักดิ์ อนุสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (นครศรีธรรมราช) เข้าร่วมการประชุมหัวหน้าส่วนราชการฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ในสังกัด สบอ.5 จาก 42 หน่วยงาน เข้าร่วม 80 คน
นโยบายสำคัญที่ รมว.ทส. เน้นย้ำเป็นอันดับแรกคือ การขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในพระดำริฯ โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ เช่น พะยูนและเต่าทะเล พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (สบอ.5) เร่งเก็บรวบรวมและรายงานข้อมูลการสำรวจทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฟื้นฟูปะการัง หญ้าทะเล และการจัดการขยะทะเล
พร้อมกันนี้ รมว.ทส. ได้เน้นย้ำถึง การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติเพื่อประชาชน โดยให้ความสำคัญกับงานตามพระราชดำริทั้งหมดที่ สบอ.5 รับผิดชอบอยู่ 3 โครงการหลัก อาทิ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ ยังเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชน ได้แก่ การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการทำรั้วดักทรายและปลูกฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่วิกฤต เช่น หาดทรายแก้ว จ.ภูเก็ต และการแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยได้เพิ่มประสิทธิภาพชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าในพื้นที่เสี่ยง (เช่น อุทยานแห่งชาติเขาหลวง) และจัดการลิงกับสัตว์ป่าในเขตเมือง ซึ่งประชาชนสามารถแจ้งเหตุผ่าน สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362
ในส่วนของการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพ รมว.ทส. มุ่งเน้นไปที่ การเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและควบคุมผลกระทบจากกิจกรรมการท่องเที่ยวทางทะเล โดยกำชับให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและการซ้อมแผนเผชิญเหตุในช่วงเทศกาลเพื่อยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวสู่สากล โดยเฉพาะมาตรฐาน ISO 13009:2015 และมาตรฐาน Green Destinations
นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังคงเดินหน้า การขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติ เพื่อมุ่งสู่การเป็นอุทยานแห่งชาติต้นแบบสังคมไร้ขยะอาหาร (Food Waste Free Society) ภายใต้แนวคิด “กินพอดี เที่ยวสุขใจ ไร้ขยะ” ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลและติดตามการจัดเก็บเงินรายได้อุทยานแห่งชาติให้ถูกต้องและโปร่งใส
สำหรับนโยบายเร่งด่วนด้านภัยพิบัติ คือ การเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อป้องกันและควบคุมการเกิดไฟป่า โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสูงอย่าง ป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีการดำเนินการผ่าน 3 มาตรการหลัก ได้แก่ การลาดตระเวน (ทางเท้า ทางรถ ทางเรือ และโดรน), การรักษาระดับน้ำโดยการสร้างและซ่อมแซมฝายชะลอน้ำ, และการจัดตั้งจุดเฝ้าระวังไฟป่าและประสานงานกับเครือข่ายอาสาสมัคร
ในช่วงท้าย รมว.ทส. ได้ให้โอวาทและเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน เพื่อให้การดำเนินงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดของประชาชนและความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติของประเทศสืบไป.