• ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ • สำนักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ขสป.เขาอ่างฤๅไน ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่ป่าอนุรักษ์ เสริมชุดเคลื่อนที่เร็วที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังพื้นที่ป่าพร้อมเร่งคลี่คลายสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายเอกชัย แสนดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วทั้ง 9 ชุด ได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มข้นในพื้นที่รับผิดชอบและบริเวณรอยต่อกับชุมชน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 1 ร่วมกับอาสาสมัครในพื้นที่ รับแจ้งเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตในสวนยางพารา บริเวณบ้านคลองตะเคียน หมู่ 13 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ห่างจากเขตรักษาพันธุ์ฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังได้ลาดตระเวนและเฝ้าระวังช้างป่าจำนวน 3 ตัว บริเวณบ้านหนองปรือกันยาง หมู่ 5 ต.ท่าตะเกียบ และผลักดันให้กลับเข้าป่าได้สำเร็จ

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัคร เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชุมชนบริเวณบ้านห้วยกบ หมู่ 15 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบช้างป่าจำนวน 11 ตัวออกหากินนอกพื้นที่ และได้ดำเนินการผลักดันและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 3 ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัคร เข้าตรวจสอบร่องรอยช้างป่าทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่บ้านวังทรัพย์ หมู่ 3 ต.วังทอง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว และเฝ้าระวังในพื้นที่บ้านคลองตะเคียนชัย หมู่ 5 และบ้านคลองตะขบ หมู่ 14 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว แต่ไม่พบช้างป่าออกนอกพื้นที่แต่อย่างใด

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 4 ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัคร เข้าตรวจสอบบริเวณบ้านอ่างกระเด็น หมู่ 5 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งว่าพบช้างป่าออกหากิน พบช้างป่าจำนวนมากถึง 40 ตัว เดินหากินตามแนวชายเขา และได้เฝ้าระวังเพื่อไม่ให้ช้างเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ชุมชน

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 6 ได้ลาดตระเวนและเฝ้าระวังในพื้นที่บ้านปากแพรก หมู่ 5 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง แต่ไม่พบช้างป่าออกนอกพื้นที่

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 9 เฝ้าระวังและติดตามช้างป่าบริเวณอ่างเก็บน้ำพวาใหญ่ หมู่ 4 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พบช้างป่ากว่า 25 ตัว ออกหากินและเข้าพักนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ชุดเคลื่อนที่เร็วที่ 13 ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัคร ลาดตระเวนตามแนวคูกั้นช้างบริเวณบ้านนายาว หมู่ 15 ต.ท่ากระดาน แต่ไม่พบช้างป่าออกนอกพื้นที่

นายเอกชัย กล่าวสรุปว่า เจ้าหน้าที่ทุกชุดยังคงปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการผลักดันช้างกลับเข้าป่า การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และการสร้างความเข้าใจกับชุมชน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับช้างป่าได้อย่างปลอดภัย และลดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด