9 กรกฎาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้ นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี นำคณะผู้แทนกรมอุทยานฯ เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 47 (47th session of the World Heritage Committee) ณ สำนักงานใหญ่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เพื่อตอกย้ำบทบาทของไทยในการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกและพัฒนานโยบายด้านการจัดการแหล่งมรดกทางธรรมชาติให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
คณะผู้แทนกรมอุทยานฯ ที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดี (หัวหน้าคณะผู้แทนกรมอุทยานฯ), นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง และนางสุนีย์ ศักดิ์เสือ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส เป็นรองหัวหน้าคณะ
การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เน้นย้ำถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งของหน่วยงานไทยในการดูแลและอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก ซึ่งรวมถึง กระทรวงการต่างประเทศ, สำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก), กรมศิลปากร, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะผู้สังเกตการณ์ คณะผู้แทนกรมอุทยานฯ ได้ติดตามและศึกษาประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการอนุรักษ์มรดกโลกในระดับสากลอย่างใกล้ชิด อาทิ รายงานความคืบหน้าของศูนย์มรดกโลก ในการดำเนินกิจกรรมและการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการมรดกโลก, รายงานจากองค์กรที่ปรึกษา ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการกำหนดทิศทางในอนาคต, กลยุทธ์การพัฒนาในแอฟริกา และความก้าวหน้าเกี่ยวกับอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกและการพัฒนาอย่างยั่งยืน, นโยบายสำหรับรัฐภาคีที่กำลังพัฒนาและหมู่เกาะขนาดเล็ก รวมถึงกลยุทธ์การปฏิบัติการสำหรับหมู่เกาะขนาดเล็ก 2023-2029, การเสริมสร้างศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับมรดกโลก และการติดตามกลยุทธ์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพมรดกโลก
การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์การอนุรักษ์พื้นที่คุ้มครองและแหล่งมรดกทางธรรมชาติของไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลต่อไป