วันที่ 16 มกราคม 2565 นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) เปิดเผยว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งการให้ร่วมสนับสนุนการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดในคดี ล่าเสือโคร่งในอุทยานอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบของกลางและเก็บพยานหลักฐาน ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
จากการตรวจสอบเสือโคร่งตัวที่ 1 พบรอยวิถีกระสุนบริเวณคอ 4 ตำแหน่ง โดยวิถียิงจากด้านหลัง เสือโคร่งตัวที่ 2 มีรอยวิถีกระสุนบริเวณตำแหน่งกระโหลก 2 รอย โดยสันนิษฐานน่าจะเป็นลูกปลาย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา และสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ ได้เก็บตัวอย่างเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอเพื่อเป็นฐานข้อมูลทางพันธุกรรมและระบุเพศเสือโคร่งโดยเก็บชิ้นเนื้อ 6 ตัวอย่าง และคราบเลือดจากมีดจำนวน 4 ตัวอย่าง เพื่อส่งตรวจศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า ซึ่งภายหลังได้มีผู้มาแสดงตนว่าเป็นผู้กระทำผิด จำนวน 5 ราย คือ นายกูกือ ยินดี อายุ 37 ปี นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี และ นายโชเอ ไม่มีนามสกุล อายุ 66 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู)
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยอากาศยานปีกหมุน หมายเลข 1117 จากกองการบิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พนักงานสอบสวนได้นำผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายจอแห่ง พนารักษ์ กับ นายศุภชัย เจริญทรัพย์ ซึ่งเป็นคนยิงเสือโคร่งตัวที่ 1 และตัวที่ 2 ตามลำดับ ให้ไปชี้จุดล่าเสือโคร่งทั้ง 2 ตัว (จุดที่มัดซากวัวไว้เป็นเหยื่อล่อ) จุดชำแหละและรมควันย่างเสือโคร่ง และจุดแคมป์พักที่นำวัวควายเข้าไปลักลอบเลี้ยงในเขตอุทยาน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ได้ทำการตรวจสอบและเก็บหลักฐานเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ ได้ใช้อากาศยานไร้คนขับบินเก็บภาพถ่ายทางอากาศเพื่อทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบบ้านพักของผู้กระทำผิดในหมู่บ้านปิล๊อกคี่ เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตามหมายค้นของศาลจังหวัดทองผาภูมิ จำนวน 4 จุด ซึ่งเมื่อตรวจค้นแล้วทุกหลังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจสอบความเป็นไปได้ของอานุภาพ ปืนแก๊ป และ ปืนลูกกรดดัดแปลงของกลาง ว่าสามารถยิงเสือโคร่งตายได้หรือไม่ และตรวจสอบสภาพแวดล้อมในการยิงปืน ว่ายิงในขณะที่เสือติดจั่น ติดบ่วงแร้ว หรือไม่ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยว่าจะถูกยิงด้วยปืนลูกซอง พร้อมทั้งทำการสืบสวนสอบสวนหานายทุนที่สนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงวัวควายในเขตป่าอนุรักษ์ และการรับซื้อวัวควายดังกล่าวว่าดำเนินการโดยถูกต้องหรือไม่อย่างไร เนื่องจากสงสัยว่ามีนายทุนจ้างชาวบ้านให้เข้าไปเลี้ยงวัวควายในอุทยาน
และการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการใช้อาวุธปืน อปพร. ในการล่าสัตว์ป่า เนื่องจากสงสัยว่าเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุและเจ้าของปืนมีส่วนร่วมสนับสนุนการกระทำผิด รวมถึงการกำหนดแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายของอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อควบคุมการเลี้ยง การเคลื่อนย้าย วัว ควาย ที่เข้าไปลักลอบเลี้ยงในป่าอนุรักษ์ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาป้องกันโรคระบาด และความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า เช่น การล่าสัตว์ป่า และการถูกสัตว์ป่าทำร้าย