วันที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 14.00 น. นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (รองเลขาฯ ส.ป.ก.) ร่วมแถลง ผลการดำเนินงานตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อนระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ภายหลังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จัดทำขึ้น ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
โดยทั้งสองกระทรวงตกลงกันเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณา เรื่องแนวเขตที่ดินที่คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ และมีข้อตกลงการปฏิบัติงานร่วมกัน คือ 1. ประเด็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทั้งสองกระทรวงตกลงกันให้นำเข้าสู่การพิจารณาเรื่องแนวเขตที่ดินที่คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ที่ผ่านความเห็นจากคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติแล้ว หรือคณะอนุกรรมการที่มีการแต่งตั้งเพื่อแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินในเรื่องแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มอบหมายเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตัดสินใจเข้าร่วมในคณะอนุกรรมการดังกล่าว และเสนอสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติพิจารณาเพื่อหาข้อยุติต่อไป 2. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดส่งข้อมูลแผนที่ในรูป Shape File แสดงพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการทับซ้อน พื้นที่ที่ควรแก้ปัญหาการอยู่อาศัยและทำกิน หรือควรสงวนไว้ตามหลักวิชาการทางทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า (Corridors) พื้นที่เตรียมการประกาศเป็นเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายและพื้นที่แนวป่ากันชน รวมทั้งพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การจัดที่ดินให้ราษฎร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง พื้นที่เป้าหมายและกรอบมาตรการแก้ไขปัญหา การอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เฉพาะพื้นที่ส่วนที่คาดว่าเป็นปัญหาทับซ้อนกับสำนักงาน การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหา การอยู่อาศัยและทำกิน หรืออนุรักษ์ไว้โดยไม่จัดสรรให้ประชาชน ภายใน 30 วัน 3. ให้ความร่วมมือสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในการแต่งตั้งคณะทำงาน พิจารณาแนวเขตการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร กรณีเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยจัดให้แก่บุคคลใดตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในแต่ละจังหวัด โดยมีผู้แทนของหน่วยงานที่กำกับดูแลที่ดินที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน รวมทั้งผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และผู้แทนกรมป่าไม้
4. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้แต่ละหน่วยงานแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแลกเปลี่ยน ข้อมูลเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งสนับสนุนการจัดที่ดินให้ประชาชนอย่างยั่งยืน ต่อไป
สำหรับการดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงดังกล่าว มีการดำเนินการแล้ว ดังนี้ ข้อ 1.ประเด็นแนวเขตป่าเขาใหญ่ ได้มีการตกลงกันให้นำเข้าสู่การพิจารณาเรื่องแนวเขตที่ดิน ที่คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) โดยใช้หลักเกณฑ์ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ได้เสนอให้ ครม.เห็นชอบแล้วเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาให้ได้ข้อยุติต่อไป ข้อ 2.ดำเนินการส่ง Shape File ซึ่งแยกตามข้อมูล โดยสรุปข้อมูลพื้นที่ที่คาดว่าจะทับซ้อน ดังนี้ 2.1 พื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ประกาศตามราชกิจจานุเบกษาแล้ว 291 แห่ง จำนวนพื้นที่ทับซ้อน 190 แห่ง เนื้อที่พื้นที่ทับซ้อนประมาณ 520,000 ไร่ ในส่วนที่ต้องมีการตรวจสอบ หากเป็นพื้นที่ที่ออกโดยมิชอบตามหลักเกณฑ์ของ ส.ป.ก.ต้องมีการเพิกถอน แต่หากเป็นพื้นที่โดยชอบ ก็ให้ปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน โดยไม่กระทบต่อราษฎรแต่อย่างใด 2.2 สำหรับพื้นที่เตรียมการป่าอนุรักษ์ 59 แห่ง ไม่มีพื้นที่ซับซ้อน กรมอุทยานแห่งชาติฯจะมีการสำรวจเพื่อมิให้ทับซ้อนกับที่ดินของราษฎรแต่อย่างใด 2.3 พื้นที่แนวเชื่อมต่อป่าอนุรักษ์ (Corridor) 168 แห่ง จำนวนพื้นที่ทับซ้อน 91 แห่ง เนื้อที่พื้นที่ทับซ้อน 90,000 ไร่ และแนวกันชนป่าอนุรักษ์ (Buffer Zone) ระยะ 3 กิโลเมตร จากพื้นที่อนุรักษ์ จำนวนพื้นที่ทับซ้อน 355 แห่ง เนื้อที่พื้นที่ทับซ้อน 9.6 ล้านไร่ จะได้ร่วมกับ ส.ป.ก.เพื่อให้มีการส่งเสริมราษฎรให้ทำกินสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมต่อไป ข้อ 3.กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการส่งรายชื่อเพื่อแต่งตั้งคณะทำงาน พิจารณาแนวเขตการจัดที่ดินให้แก่เกษตรกร กรณีเป็นพื้นที่ที่ไม่เคยจัดให้แก่บุคคลใดตามกฎหมายว่าด้วยการ ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในแต่ละจังหวัด เรียบร้อยแล้ว ข้อ 4. ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแลกเปลี่ยน ข้อมูลเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งสนับสนุนการจัดที่ดินให้ประชาชนอย่างยั่งยืน เรียบร้อยแล้ว และให้มีการมาร่วมกันแถลงข่าวในวันนี้
โดยทั้งหมดนี้เพื่อให้การบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์และการจัดการที่ดินให้ประชาชนเป็นไปด้วยความยั่งยืนและไม่เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต